เวลาสั่งผลิตชิ้นงานสแตนเลส เกรด 304 ที่ใช้กันแพร่หลาย หลายคนอาจสงสัยว่าผิวสแตนเลสมีแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับงานแบบใด เรามาทำความรู้จัก ผิวสแตนเลส หลักๆ 3 ประเภทที่ใช้กันบ่อย พร้อมเปรียบเทียบข้อแตกต่างและการนำมาใช้งานกัน
1. ผิวสแตนเลส 2B (No.2B Finish)
ผิว 2B เกิดจากการรีดเย็น (Cold Rolled) ตามด้วยการอบอ่อน (Annealing) เพื่อปรับโครงสร้างโลหะให้มีความยืดหยุ่น จากนั้นนำไปกัดกรดเพื่อขจัดคราบออกไซด์ และสุดท้ายผ่านลูกกลิ้งขัดผิว (Skin Pass) เพื่อให้ผิวเรียบและมีความเงาในระดับปานกลาง
ลักษณะผิว
- สีเทาเงิน เรียบเนียน
- เงากว่าผิว 2D แต่ไม่ถึงกับสะท้อนแสงชัดเจน
- ความสะท้อนแสงประมาณ 22% ในเกรดออสเทนนิติก (304, 316) และ 46% ในเกรดเฟอร์ริติก (410, 430)
การใช้งาน
- เครื่องครัว เช่น หม้อ กระทะ
- สุขภัณฑ์ เช่น อ่างล้างมือ
- เฟอร์นิเจอร์สแตนเลส
- งานทั่วไปที่ต้องการความเรียบและความสะอาด
จุดเด่น
- ราคาย่อมเยา
- ขึ้นรูปง่าย
- ทำความสะอาดง่าย
- เหมาะสำหรับงานที่ไม่เน้นความสวยงามของผิวภายนอก หรือเป็นงานเชื่อมของส่วนประกอบภายใน
2. ผิวขนแมว (Hairline Finish / HL)
ผิวขนแมวเกิดจากการนำผิว 2B มาขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ 150–220 หรือใช้ลูกขัดพิเศษ โดยควบคุมแรงกดและทิศทางการขัดให้เกิดลายเส้นยาวต่อเนื่องคล้ายขนแมวหรือเส้นผม
ลักษณะผิว
- ลายเส้นตรงยาว เรียงตัวสวยงาม
- สีเงินด้าน มีความเงาเล็กน้อย
- ช่วยพรางรอยขีดข่วนได้ดี
การใช้งาน
- งานตกแต่งภายใน เช่น ผนัง ลิฟต์
- เฟอร์นิเจอร์สแตนเลส เช่น โต๊ะ เก้าอี้
- เครื่องครัว เช่น ตู้เย็น เตาอบ
- งานสถาปัตยกรรมที่ต้องการความเรียบหรู
จุดเด่น
- ดูทันสมัย
- ซ่อนรอยขีดข่วนได้ดี
- เหมาะกับงานที่ต้องการความสวยงามและความทนทาน
3. ผิวเงากระจก (Mirror Finish / No.8)
เริ่มจากผิว 2B หรือ BA แล้วนำไปขัดด้วยผ้าขัดละเอียดมาก เช่น ผ้าขนสัตว์ เบอร์ #1000 ร่วมกับผงขัดอลูมิเนียมออกไซด์หรือโครเมียมออกไซด์ เพื่อให้ผิวสะท้อนแสงได้เหมือนกระจก
ลักษณะผิว
- เงาใสเหมือนกระจก
- สะท้อนแสงได้ชัดเจน
- ไม่มีลายเส้นหรือรอยขัดให้เห็น
การใช้งาน
- งานตกแต่งหรูหรา เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า
- อุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องการความสะอาดสูง
- เครื่องสำอางและบรรจุภัณฑ์
- งานโชว์ งานแสดงสินค้า
จุดเด่น
- สวยงามหรูหราและดูพรีเมียม
- ทำความสะอาดง่าย
- เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
💡 การเลือกผิวสแตนเลสให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกผิวของสแตนเลสไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความทนทาน การดูแลรักษา และความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน เช่น:
- งานภายนอกอาคาร ควรเลือกผิวที่ทนต่อสภาพอากาศ เช่น Mirror Finish ที่มีความเงาและกันสนิมได้ดี
- งานตกแต่งภายใน อาจเลือกผิว Hairline หรือ Satin ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูและดูทันสมัย
- งานอุตสาหกรรมหรือเครื่องมือแพทย์ ต้องการผิวที่ทำความสะอาดง่าย เช่น ผิว 2B
🔍 ข้อพิจารณาในการเลือกผิวสแตนเลส
- ความเงา: ส่งผลต่อรูปลักษณ์และการสะท้อนแสง
- ความหยาบผิว: มีผลต่อการกัดกร่อนและการทำความสะอาด
- ความหนา: ผิวบางอาจไม่เหมาะกับงานโครงสร้าง
- การขึ้นรูป: ผิวบางแบบเหมาะกับการพับ ดัด หรือเชื่อมมากกว่าแบบอื่น
📌 สรุป: เลือกผิวสแตนเลสอย่างไรให้ตอบโจทย์
- ถ้าเน้น ความคุ้มค่า → เลือกผิว 2B
- ถ้าเน้น งานเรียบร้อย มีการเชื่อม → เลือกผิว ขนแมว
- ถ้าเน้น ความสวยงามและงานโชว์ → เลือกผิว เงา
การเลือกผิวสแตนเลสจึงขึ้นอยู่กับ งบประมาณและการใช้งานจริง ลูกค้าสามารถปรึกษาเราเพื่อเลือกผิวที่เหมาะสมที่สุดกับงานของคุณได้ หากต้องการผิวแบบอื่น ก็สามารถแจ้งเราได้เช่นกัน
บทความเกี่ยวกับสแตนเลสที่ผ่านมา:
“สแตนเลส”คืออะไร
ประเภทของสแตนเลส
สแตนเลส เกรดยอดฮิต 304
การแบ่งเกรดสแตนเลส
ทำไมสแตนเลสถึงไม่เป็น“สนิม”
สแตนเลสกับเฟอร์นิเจอร์ในสถานพยาบาล
Add a Comment