การเชื่อมโลหะ: การอาร์ค vs การเชื่อมสปอต
ความแตกต่าง ข้อดี–ข้อเสีย และงานแบบไหนเหมาะกับอะไร ??
การเชื่อมโลหะเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตงานเหล็กทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นตู้ล็อกเกอร์ ตู้เหล็ก ชั้นวางสินค้า รถเข็น หรือโครงเหล็กของงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปัจจุบันวิธีเชื่อมที่นิยมใช้อยู่คือ “การเชื่อมอาร์ค (Arc Welding)” และ “การเชื่อมสปอต (Spot Welding)” ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน
บทความนี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่าย พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ออกแบบงานผลิตสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดได้
1. การเชื่อมอาร์ค (Arc Welding) คืออะไร?
การเชื่อมอาร์ค คือ การใช้ “ลำแสงอาร์คไฟฟ้า” (Electric Arc) สร้างความร้อนสูงมากเพื่อหลอมชิ้นงานโลหะให้เชื่อมติดกัน อุณหภูมิบริเวณอาร์คอาจสูงถึง 3,000–20,000°C
ประเภทของ Arc Welding ที่ใช้กันทั่วไป เช่น
- SMAW (Shielded Metal Arc Welding) – เชื่อมธูป เหมาะกับงานทั่วไป
- MIG (Metal Inert Gas Welding) – ใช้แก๊สป้องกัน เหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบร้อย
- TIG (Tungsten Inert Gas Welding) – งานละเอียด เช่น สแตนเลสหรืออลูมิเนียม
- FCAW (Flux Cored Arc Welding) – การเชื่อมอาร์คด้วยลวดเชื่อมแบบมีฟลักซ์ในแกนกลาง
✔ ข้อดีของการเชื่อมอาร์ค
- แข็งแรงมาก รองรับงานโครงสร้างและรับน้ำหนัก
- เชื่อมวัสดุหนาได้ดี
- ความสวยงามของแนวเชื่อมสูง (โดยเฉพาะงาน TIG)
- เหมาะกับงานที่ต้องการความประณีต
✘ ข้อเสียของการเชื่อมอาร์ค
- ใช้เวลานานกว่า spot welding
- ต้องใช้ช่างเชื่อมฝีมือดี
- เกิดความร้อนสูง ทำให้ชิ้นงานบิดงอได้
- ต้นทุนแรงงานสูงกว่า
🟦 งานที่เหมาะกับการเชื่อมอาร์ค
- โครงเหล็กหลักของตู้
- โครงรถเข็น
- งานเหล็กหนา
- งานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ
- งานโชว์แนวเชื่อม (TIG สวย เหมาะกับงานโชว์)
2. การเชื่อมสปอต (Spot Welding) คืออะไร?
การเชื่อมสปอตคือการ “ประกบแผ่นเหล็กบาง 2 ชิ้นเข้าด้วยกัน” โดยใช้แรงกดร่วมกับกระแสไฟฟ้าปริมาณสูงเพื่อสร้างความร้อนเฉพาะจุด
เป็นวิธีที่ใช้มากในงานผลิตจำนวนมาก เช่น ตู้เหล็ก ลิ้นชัก ตู้แร็ค เครื่องใช้ไฟฟ้า
✔ ข้อดีของการเชื่อมสปอต
- เร็วมาก เหมาะกับงาน mass production
- ค่าแรงต่ำกว่า เพราะเป็นงานกึ่งอัตโนมัติ
- รอยเชื่อมมีความเรียบร้อย ไม่ต้องเก็บงานเยอะ
- ความร้อนเฉพาะจุด ทำให้ชิ้นงานไม่โก่งตัว
✘ ข้อเสียของการเชื่อมสปอต
- ไม่เหมาะกับเหล็กหนา
- ความแข็งแรงน้อยกว่าการเชื่อมอาร์ค
- ต้องมีจุดสัมผัสที่เข้าถึงได้เท่านั้น
- หากต้องรับแรงมาก อาจต้องเพิ่มจำนวนจุดเชื่อม
🟦 งานที่เหมาะกับการเชื่อมสปอต
- งานจุดยึดฝาตู้เหล็ก
- จุดยึดแผ่นประกบ ที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก
- แผ่นพับบาง
- งานเฟอร์นิเจอร์เหล็กบาง
- งานตู้ Vending Machine (เช่นโครงตู้บางส่วน)
ความสวยงามของงานเชื่อม — Arc vs Spot
Arc Welding
- ให้ลายเส้นเชื่อมที่ “โชว์ได้” โดยเฉพาะ TIG
- เหมาะกับงานที่ลูกค้าเห็นด้านนอก
- งาน MIG สามารถเก็บแนวเชื่อมให้เรียบก่อนพ่นสีได้ง่าย
✔ Spot Welding
- จุดเชื่อมเล็ก เรียบ และรอยงานน้อย
- เหมาะกับงานที่ต้องการพื้นผิวเรียบ เช่น ตู้เหล็กหรือผนังตู้
- พ่นสีแล้วเนียนเหมือนชิ้นเดียวกัน
สรุป:
- งานโชว์แนว → Arc Welding (TIG/MIG)
- งานแผ่นเรียบ, งานบาง, งานผลิตจำนวนมาก → Spot Welding
ตารางเปรียบเทียบ Arc Welding vs Spot Welding
รายการ | Arc Welding | Spot Welding |
ความแข็งแรง | สูงมาก | ปานกลาง–สูง (ขึ้นกับจำนวนจุด) |
ความเร็ว | ช้า | เร็วมาก |
ความสวยงาม | ดี–ดีมาก (โดยเฉพาะ TIG) | เรียบเนียน รอยน้อย |
ความเหมาะสมของเหล็กหนา | ดี | ไม่เหมาะ |
เหมาะกับงาน | โครงสร้าง, งานโชว์แนว | แผ่นบาง, mass production |
ค่าแรง | สูงกว่า | ต่ำกว่า |
ความเสี่ยงบิดงอ | มี | ต่ำ |
แล้วโรงงานควรใช้แบบไหนดี?
ตามประสบการณ์ของ Goldenduck Steel:
- ถ้าเป็น โครงสร้างหลักที่ต้องรับแรง → ใช้ Arc Welding
- ถ้าเป็น งานแผ่นเหล็กบาง เช่น ผนังตู้, แผงข้าง, ลิ้นชัก → ใช้ Spot Welding
- ถ้าเป็นงานที่ลูกค้าต้องการ “ผิวเรียบ ไม่มีรอยเชื่อม” → Spot
- ถ้าต้องการโชว์ “ลายแนวเชื่อมสวย” → TIG (Arc)
บทสรุป: เลือกวิธีเชื่อมให้ถูกงาน = งานแข็งแรง + สวย + ประหยัดต้นทุน
การเลือกวิธีเชื่อมมีผลต่อ
✔ ความแข็งแรง
✔ ความสวยงาม
✔ ต้นทุนการผลิต
✔ เวลาส่งมอบ
✔ คุณภาพชิ้นงานในระยะยาว
โรงงานที่ดีต้องเลือกให้เหมาะทั้ง “โครงสร้าง” และ “ความสวยงามของผิวงาน” เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม โกลเด้นดั๊กสตีล พร้อมให้คำแนะนำ วางใจได้ด้วยทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในการเชื่อมทุกรูปแบบ

Add a Comment