เหล็ก ถือเป็นหนึ่งในวัสดุสำคัญของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง ราคาแพง และได้รับความต้องการอย่างมาก ดังนั้น นอกจากการเลือกเหล็กคุณภาพดีแล้ว กระบวนการตัดเหล็ก ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องศึกษาอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการสูญเสียทั้งเวลาและต้นทุนในการผลิต
บทความนี้ GOLDENDUCK STEEL ขอแนะนำวิธีการตัดเหล็กที่ทุกคนต้องรู้ ตั้งแต่วิธีการตัด วิธีเลือกการตัดเหล็กให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ไปจนถึงการรู้ Cutting Tool เพื่อให้ได้เหล็กที่มีคุณภาพในทุกการใช้งาน
‘การตัดเหล็ก’ คืออะไร และทำไมเหล็กถึงต้องใช้วิธีการตัด ?
การแบ่งส่วนของวัสดุที่มีความแข็งอย่างเหล็กเพื่อเอาไปใช้งานนั้น สามารถทำได้หลายแบบขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของ ‘ไซส์’ และ ‘รูปร่าง’ ว่าในอุตสาหกรรมจะเอาไปใช้ต่อแบบไหน โดยปกติแล้ว ถ้าต้องการเหล็กไซส์มาตรฐานสำหรับเอาไปใช้งานอะไรสักอย่าง เราสามารถซื้อ ‘เหล็กดิบ (raw steel)’ ได้จากโรงงานที่รับทำอยู่แล้ว แต่ก็จะมีงานบางประเภทที่ต้องการเหล็กไซส์พิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งรูปแบบการตัดเหล็กจะมีวิธีต่าง ๆ ตามนี้
‘เจาะ (Drilling)’ : การเจาะถือเป็นกระบวนการตัดเฉือนเหล็กเพื่อสร้างรูด้วยเครื่องมือเฉพาะ เช่น สว่าน โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้สามารถจับยึดหรือเชื่อมต่อกับชิ้นงานเหล็กอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
‘กลึง’ (Turning) : การกลึง เป็นวิธีการทำให้เหล็กสามารถขึ้นรูปทรงได้ตามที่ต้องการ
‘กัด’ (Milling) : การกัดคือ ขั้นตอนการเก็บงานโดยการใช้ใบมีดในการตัดและกัดผิว เพื่อให้เหล็กมีผิวสวยเรียบเนียน
การตัดเหล็กถูกนำไปใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง

อย่างที่กล่าวไปว่า การนำเหล็กไปใช้มีปัจจัยในการก่อสร้างหลายรูปแบบ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าสถานการณ์ไหนบ้างที่เราจะเริ่มตัดเหล็กเพื่อนำไปใช้งาน เพราะฉะนั้น เลยจะขอยกตัวอย่างของสถานการณ์ที่ต้องตัดเหล็กให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้น
ใช้เพื่อ ‘ประกอบโครงสร้าง’ (Support Structures)
เมื่อไหร่ก็ตามที่การก่อสร้างต่อการที่ยึดพื้นฐานโครงสร้างให้แข็งแรง การตัดเหล็กเพื่อให้ได้รูปทรงพิเศษเข้าไปประกอบตามจุดต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นทันที
ใช้เพื่อ ‘เตรียมในการเชื่อม’ (Welding Steel Prepare)
การจะนำเหล็กไปเชื่อมกับเหล็กด้วยกัน หรือวัสดุใดก็ตาม จำเป็นที่จะต้องมีการตัดเพื่อเตรียมตัวเอาไว้ก่อนเสมอ
ใช้เพื่อ ‘แก้ไขสถานการณ์’ (Fix Alert Situation)
ในบางครั้งแบบแผนของการก่อสร้างก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนทันทีเพื่อให้เข้ากับหน้างาน ไปจนถึงซ่อมแซมบางอย่าง เหล็กก็จะถูกตัดใหม่เพื่อนำไปใช้กับสิ่งนี้
เข้าใจ 3 ประเภทของการตัดเหล็กยอดนิยมในตลาด
ในวงการอุตสาหกรรม มีหลากหลายวิธีในการตัดเหล็ก แต่มีเพียงไม่กี่วิธีที่ได้รับความนิยมและให้ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่เรียบเนียน ไม่บิ่น ไม่งอ และสามารถผลิตได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
1. งานรับตัดเหล็กด้วยระบบไฮดรอลิก : วิธีการตัดเหล็กในระดับเบสิกที่สุด เหมาะสำหรับงานตัดเหล็กแบบทั่ว ๆ ไป ง่าย ๆ คือการใช้ใบมีดจากเครื่องจักรสับลงมาในแนวดิ่ง พร้อมส่งพลังด้วยระบบไฮดรอลิก ซึ่งเราสามารถเลือกความหนาของใบมีด มุมตัด ช่องว่างของใบมีด แบบ Custom Cutting ได้ตามต้องการ
2. งานรับตัดเหล็กด้วยเครื่องตัดเลเซอร์ : การตัดเหล็กด้วยเลเซอร์เป็นกระบวนการที่ใช้ลำแสงความร้อนสูงเพื่อหลอมละลายเหล็กตามแนวเส้นทางที่กำหนด ให้ความแม่นยำสูงและช่วยลดการสูญเสียวัสดุ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เหมาะสำหรับเหล็กที่มีความหนาไม่เกิน 1.25 นิ้ว ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาคุณภาพของชิ้นงาน ทั้งนี้ การตัดด้วยเลเซอร์อาจใช้เวลามากกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ก็แลกมากับความละเอียดและความเรียบร้อยของขอบตัดที่เหนือกว่า
3. งานรับตัดเหล็กด้วยแก๊ส : การตัดเหล็กด้วยแก๊สเป็นกระบวนการที่ใช้แก๊สออกซิเจนร่วมกับแก๊สเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ที่อุณหภูมิสูงถึง 884 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปฏิกิริยาสันดาประหว่างออกซิเจนกับเหล็ก วิธีนี้เหมาะสำหรับการตัดเหล็กที่มีความหนาสูง เนื่องจากให้ประสิทธิภาพสูงและรวดเร็ว โดยแก๊สที่นิยมใช้มากที่สุดคือ อะเซทิลีน ซึ่งติดไฟง่ายและให้พลังงานความร้อนสูง
4 ปัจจัยสำคัญในการเลือก Cutting Tool ให้เหมาะกับชิ้นงาน

เข้าใจวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
นี่คือปัจจัยสำคัญอันดับแรกก่อนเริ่มงานตัดเหล็ก หากเลือกวิธีตัดผิดจากความต้องการของชิ้นงาน เหล็กที่ใช้ก็อาจสูญเปล่าโดยไม่เกิดประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด ควรกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนก่อน ได้แก่ เป้าหมายของการใช้งาน และ ความหนาของเหล็ก ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถเลือก Cutting Tool ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเจาะ กัด หรือกลึง ได้อย่างแม่นยำ
ความคุ้มค่า
เมื่อพูดถึงอุตสาหรรมที่ต้องใช้เหล็กเป็นส่วนสำคัญ ก็ต้องคุยกันเรื่องความคุ้มค่าของการตัดเหล็กแต่ละครั้ง สำหรับเจ้าของโรงงานการลงทุนกับเครื่องตัดเหล็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ เลือก Cutting Tool ให้เหมาะสมกับงานของเรา เพราะเครื่องตัดเหล็กที่ดีจะช่วยลดต้นทุนลงให้เราได้อย่างชัดเจน
ระยะเวลาในการทำงาน
Man Hour เองก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กจำนวนมาก ซึ่งต้องการทั้งความแม่นยำ และความรวดเร็วภายในเวลาที่กำหนด ความรู้ในการเลือก Cutting Tool จึงเป็นสิ่งจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น การตัดด้วยเลเซอร์ แม้จะมีต้นทุนสูง แต่ก็มอบความละเอียดและเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความซับซ้อนในการดัดแปลงรูปร่าง ซึ่งช่วยให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คำนึงถึงวัสดุที่เราต้องการตัด
การเลือก Cutting Tool ที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทงานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ชิ้นงานเหล็กที่สามารถใช้งานได้จริง และยังคงรักษาอายุการใช้งานของเครื่องมือไว้ได้อย่างยาวนาน ควรพิจารณาคุณสมบัติหลักของเครื่องมือที่ต้องการ เช่น ต้านทานการสึกหรอ (Wear Resistance), คงความแข็งในอุณหภูมิสูง (Hardness), ทนทานต่อปฏิกิริยาทางเคมีและความร้อน (Thermal and Chemical Stability) และ ความทนทานต่อแรงและพลังงานในกระบวนการตัด (Toughness)
แนะนำบริการตัดเหล็กแบบ Made to order จาก GOLDENDUCK STEEL
หากคุณกำลังมองหา ‘เหล็ก’ ที่ผ่านการตัดด้วยคุณภาพสูงสุด GOLDENDUCK STEEL พร้อมให้บริการตัดเหล็กแบบ Made To Order เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพราะเราใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในทุกขั้นตอน ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์อย่างแม่นยำ สร้างรูปทรงต่าง ๆ ได้ตามต้องการ มีองศาการดัดที่แม่นยำ พร้อม QC คุณภาพด้วยการตรวจมุมฉากจากระบบคอมพิวเตอร์
งานรับตัดเหล็กด้วยระบบไฮดรอริกและมอเตอร์ไฟฟ้า (Punching) : ซึ่ง GOLDENDUCK STEEL ใช้เครื่องตัดเหล็กของ HACO ST3006 อุปกรณ์อุตสาหกรรมคุณภาพสูงจากประเทศเบลเยียม รองรับทั้งการตัดเหล็ก, อลูมิเนียม, สแตนเลส และโลหะอีกหลากชนิด ตัดยาวได้สูงสุด 3 เมตร มีความแม่นยำสูง พร้อมรองรับการตัดเหล็กในปริมาณมาก
งานรับตัดเหล็กด้วยเครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์ : GOLDENDUCK STEEL ใช้เครื่องตัดเลเซอร์ด้วยระบบ CO₂ เทคโนโลยีล้ำสมัยของประเทศไทย ที่ช่วยให้ผิวของรอยตัดตัวเหล็กมีความสวยงาม ทั้งยังไม่ต้องมีต้นทุนเรื่องแม่พิมพ์ (Punch-Die)
งานรับตัดด้วยกรรไกรตัดเหล็กขนาด 4fx8f : และนอกจากการใช้เครื่องจักรในการตัดเหล็ก GOLDENDUCK STEEL เรายังใช้เครื่องตัดด้วยกรรไกรแบบ Manual Custom ด้วยเครื่องตัดยี่ห้อ HACO ST3006 เป็นเครื่องที่ใช้อุตสาหกรรมของเครื่องจักรที่ประสิทธิภาพสูงจากประเทศเบลเยียม ตัดขนาด 4fx8f เพื่อที่จะได้ตัดงานในรูปร่าง และเหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ Specific ที่สุด
การตัดเหล็กนับเป็นเป็นงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความประณีตมาก และการทำผิดพลาดอย่างเช่น ใช้ Cutting Tool ที่ผิดจุดประสงค์, การใช้เวลาในการตัดเหล็กเกินจำเป็น, นำไปสู่การใช้ต้นทุนที่มหาศาลไปกับวัสดุที่มี Value & Cost สูงมากอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของโรงงาน หรือว่าจะเป็นลูกค้าที่ต้องการเหล็กไปใช้ในงานอะไรสักอย่าง สิ่งสำคัญที่ต้องมีสำหรับการตัดเหล็กคือ Knowledge ทั้งนี้ถ้าหากว่าใครที่อยากได้เหล็กที่มีคุณภาพ Made to order ตรงกับงานของตัวเอง GOLDENDUCK STEEL พร้อมดูแลคุณ
Add a Comment